ฟิก One Shot ฉลองวันเกิดพี่เยี่ยปี 2018 ค่ะ
กรุณาอย่านำฟิกไปโพสต์ที่อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตก่อน
Title: Our Bonds: A Theory
Pairing: โจวเจ๋อข่าย/เยี่ยซิว(c), โจวเจ๋อข่าย/เยี่ยซิว
Rating: PG-13
Warning: Genderbending, suggested BL
พวกเขาเป็นชาวต่างชาติส่วนน้อยในต่างแดน เธอเรียนจบไฮสคูลแล้วก็ปฏิเสธที่จะต่อมหาวิทยาลัยทันที เธออ้างกับที่บ้านว่าอยากทำงาน อยากหาประสบการณ์ เธอเป็นพวกหัวแข็งผิดกับน้องชายฝาแฝด
ครอบครัวของเยี่ยซิวเคยร่ำรวยมีอำนาจล้นฟ้า แต่เพราะพิษเศรษฐกิจฟอกสบู่ทำให้บิดาของเธอตัดสินใจมาเริ่มต้นใหม่ที่ต่างประเทศ แม้เธอจะเป็นลูกคนโต แต่ก็เป็นลูกสาว สำหรับชาวแผ่นดินใหญ่แล้ว ความคาดหวังมักตกอยู่กับลูกชาย ในกรณีนี้อาจเป็นโชคดีของเธอ เยี่ยชิว แฝดชายของเธอต้องเรียนต่อมหาวิทยาลัยทั้งที่เขาไม่อยาก เยี่ยซิวมีอิสระมากกว่าน้อง เธอรับงานไปเรื่อย หาเรื่องที่อยากทำ ตามหาสิ่งที่ชอบ
ในตอนนี้เธอทำงานในร้านอินเตอร์เน็ตแห่งหนึ่ง และเธอสนใจเกมเกมหนึ่งที่ชื่อว่า กลอรี่ออนไลน์
กลอรี่ออนไลน์มีระบบเกมที่ซับซ้อนกว่าเกมอื่นๆที่เธอเคยเล่น โลกของกลอรี่ดึงดูดเธอ โลกของกลอรี่ดูคุ้นเคยจนชวนคิดถึงสำหรับเธอ ทั้งๆที่เธอเพิ่งจะเคยเห็นมันเป็นครั้งแรก
อี๋เยี่ยจือชิว เธอตั้งชื่อให้ตัวละครของเธอแบบนั้น เธอให้อี๋เยี่ยจือชิวเป็นผู้ชาย เธอสร้างให้เขาคล้ายกับน้องชายฝาแฝดเป็นการล้อเลียน
จากวันแรกที่เธอแตะกลอรี่จนถึงวันนี้ ผ่านมาปีกว่าแล้ว เธอใช้เวลาที่ต้องเฝ้าอยู่ที่โต๊ะคอมฯ ตัวหน้าโลดแล่นเหนือใครในกลอรี่ออนไลน์ในวันที่ลูกค้าเงียบ
ชิวมู่ซู: เยี่ยซิว เธอมาแล้วเหรอ มานี่หน่อย มีคนจะให้พบ
ชิวมู่ซูเป็นตัวละครของเพื่อนสนิทที่สุดในชีวิตของเธอ ตอนที่ครอบครัวของเธอย้ายมาที่ประเทศนี้ เขาเป็นคนเดียวที่เธอทิ้งไว้ข้างหลังที่เธอนึกถึง เธอกับเขายังติดต่อกัน ตลกดีที่เขาและเธอรู้สึกผูกพันกับเกมเกมนี้ ตอนที่เยี่ยซิวส่งข้อความไปชวนซูมู่ชิวให้มาเล่นด้วย เธอพบว่าเขาเองกำลังตีมอนอัพเลเวลอยู่ในเกมแล้ว
คนที่ซูมู่ชิวแนะนำให้เธอรู้จักเป็นอาชีพสายมือปืนอีกคน ในทีแรกเธอแปลกใจว่าทำไมซูมู่ชิวถึงไม่แนะนำให้แอดเพื่อนตั้งแต่เธอยังพาตัวอี๋เยี่ยจือชิวไปไม่ถึง แต่เมื่อเธอได้พบคนคนนี้ เธอจึงเข้าใจ อี้เชียงชวนหยุนเป็นคนพูดน้อยมาก
ซูมู่ชิวเสนอให้พวกเขาสามคนลงดันเจียนใหม่เลเวล 45 ในตอนนั้น เลเวลของเยี่ยซิวกับซูมู่ชิวค้างอยู่ที่ 40 อันเป็นค่าสูงสุดเดิม อี้เชียงชวนหยุน 38 เพดานเลเวลของกลอรี่เพิ่งจะปรับขึ้นเมื่อสัปดาห์ก่อนหลังการอัพแพทช์ใหม่ แสดงว่าอี้เชียงชวนหยุนคนนี้เพิ่งมาเล่นได้ไม่นานนัก
อี๋เยี่ยจือชิว: ความต่างเกินห้าเลเวลกับการลงดันเจียน 5 คนด้วยคน 3 คนเนี่ยนะ มู่ชิว อยากได้วัตถุดิบใหม่จนละเมอหรือไง
เยี่ยซิวมั่นใจในฝีมือของตัวเอง แต่กับดันเจียนใหม่ที่ไม่เคยเจอมาก่อนและภาวะถูกกดข่มจากความต่างของเลเวล ต่อให้เป็นเธอก็ต้องคิดให้รอบคอบ ที่สำคัญชิวมู่ซูกับอี้เชียงชวนหยุนเป็นอาชีพโจมตีไกล ถ้าเจอบอสที่ต้องสู้ในระยะประชิด อี๋เยี่ยจือชิวของเธอจะต้องแบกรับการประจัญหน้าหลัก โดยในกลุ่มปาร์ตี้นี้ไม่มีสายฮีล
ชิวมู่ซู: ไม่เป็นไรหรอกน่า ฉันลองศึกษาข้อมูลมาคร่าวๆแล้ว อัพเดทใหม่ครั้งนี้จะสามารถกดออกจากดันเจียนได้ตามจุดต่างๆในแมพ ถ้าไม่ไหวจริงๆพวกเราก็แค่…
เขาส่งอีโมติคอนยิ้มที่ทำให้เยี่ยซิวนึกถึงซูมู่เฉิง น้องสาวของเขามา
ชิวมู่ซู: วิ่ง
เยี่ยซิวหัวเราะเหอะๆ กับข้อความบนหน้าจอ เธอเคาะข้อความใส่แชทส่วนตัวไปให้ซูมู่ชิว
อี๋เยี่ยจือชิว: เหอะๆ ถามความสมัครใจคนอื่นหรือยัง หมอนี่ไม่พูดอะไรเลย นายไปหลอกเขามารึเปล่า
แต่ซูมู่ชิวกลับตอบข้อความของเธอในหน้าต่างกลุ่ม
ชิวมู่ซู: เสี่ยวโจว เจอภาวะกดข่มเกินห้าเลเวลไหวหรือเปล่า
ไม่มีคำตอบใดๆบนหน้าจอ เยี่ยซิวกำลังนึกว่าคนเล่นเจ้าของไอดีลุกหนีไปแล้ว แต่ทันทีที่คิดอย่างนั้น ข้อความใหม่ก็เด้งขึ้นมา
อี้เชียงชวนหยุน: จะลองดู
ตลอดเวลาปีเศษที่เธออยู่ในโลกของกลอรี่ ชื่อที่โด่งดังมีเพียงสองชื่อ อี๋เยี่ยจือชิวกับต้าม่อกูเยียน ซูมู่ชิว แม้เป็นยอดฝีมือคนหนึ่ง แต่ไม่ค่อยป้วนเปี้ยนในสนามประลอง และส่วนใหญ่มักเล่นเป็นฝ่ายสนับสนุนเยี่ยซิวตามหลักสายอาชีพโจมตีไกลมากกว่า กระนั้นจนถึงตอนนี้ เยี่ยซิวก็ไม่เคยพบมือปืนที่มีฝีมือดีเท่ากับซูมู่ชิว แม้คนคนนี้ซูมู่ชิวจะเป็นคนแนะนำด้วยตนเอง แต่เยี่ยซิวไม่ได้คาดหวัง
ดังนั้นตอนที่อี้เชียงชวนหยุนสไลด์ตัวเข้าไปกลางวง เปิดฉากกราดยิงมอนสเตอร์นับสิบพร้อมกัน เยี่ยซิวถึงกับตกตะลึง คนคนนี้มีความเร็วมือสูงและมีความสามารถในการควบคุมย่อยที่ละเอียดมาก ถึงกับสามารถใช้อาวุธอย่างปืนคู่จู่โจมเหมือนกับเป็นอาชีพสายประชิดในระยะใกล้
อี๋เยี่ยจือชิว: เฮ้ ฝีมือดีนี่ แบบนี้ดันเจียนนี้ค่อยมีหวังหน่อย มู่ชิว นายนี่ตาแหลมนะ
ชิวมู่ซู: ทำเวลากันหน่อยไหม สถิติแรกเชียวนะ!
อี้เชียงชวนหยุนยังคงไม่พูดอะไร เขาเปิดมอนใหม่มาเรียบร้อยแล้ว ชิวมู่ซูรับลูกอย่างสวยงาม ใช้ปืนส่งตัวส่งมอนสเตอร์ตัวใหญ่ที่สุดมาให้อี๋เยี่ยจือชิว
แทคทีมของนักแม่นปืนยอดฝีมือสองคนน่าดูชมยิ่ง พวกเขาทั้งคู่ล้วนฝีมือดีแต่มีสไตล์การเล่นที่แตกต่าง ชิวมู่ซูเป็นเอกในเรื่องการจับจังหวะ เขาเลือกใช้เทคนิคที่เหมาะสมที่สุด มีประสิทธิภาพที่สุดในทุกโอกาสที่มาถึง ส่วนอี้เชียงชวนหยุนนั้นต่างจากเจ้าของไอดีที่เงียบจนไม่รู้ว่าอยู่หรือไม่อยู่ เมื่อเปิดฉากต่อสู้ เขาเปล่งประกาย จู่โจมว่องไวดุดัน เหมือนกับข้อจำกัดของอาชีพนักแม่นปืนไม่ใช่ข้อจำกัด เยี่ยซิวมองสองนักแม่นปืนใช้ปืนส่งตัวจับโยนมอนสเตอร์เล่นด้วยกระสุนกันไปมาราวกับหยอกล้อเล่น มองชิวมู่ซูส่งบอสร่างใหญ่ให้อี้เชียงชวนหยุน และมองอี้เชียงชวนหยุนส่งร่างที่ไม่น่าจะลอยอยู่บนฟ้าได้นานของบอสนั้นเหินสูงขึ้นเวหา สูงขึ้นไป…สูงขึ้นไป ปลอกกระสุนร่วงกราวจากปืนสองกระบอกในมือเขาราวห่าฝน จนสุดท้าย บอสที่เลือดแดงก็ถูกชิวมู่ซูปลิดชีวิตทั้งที่ไม่มีโอกาสได้โจมตีกลับด้วยท่าใหญ่สุด โลหิตแดงฉานสาดกระจายตกลงมาเป็นฝนเลือดอาบทั่วบริเวณ
แล้วประกาศเฟิร์สคิลจากระบบก็เด้งขึ้นมา ท่ามกลางความตื่นตะลึงและริษยาของผู้คนบนแผ่นดินแห่งกลอรี่
อี๋เยี่ยจือชิว ชิวมู่ซู อี้เชียงชวนหยุน ทำเฟิร์สคิลมังกรแห่งหุบเขาสายหมอก
หลังจากนั้น อี้เชียงชวนหยุนได้มาเข้ากลุ่มกับพวกเขาบ่อยๆ หลายครั้งเยี่ยซิวออนไลน์มาพบว่าซูมู่ชิวพาอีกฝ่ายลงดันเจียนไปก่อนโดยไม่รอเธอแล้ว มือปืนหนุ่มสองคนที่ลงดันลุยดะแบบไม่ต้องพึ่งคนแบกค่าดาเมจย่อมเป็นที่กรี๊ดกร๊าดของพวกสาวๆ ต่อให้อี๋เยี่ยจือชิวเป็นตัวละครเพศชาย แต่หากได้ยินเสียงของเยี่ยซิวที่โผล่ไปในสนามประลองบ่อยๆ คนส่วนใหญ่ย่อมรู้ว่านักเวทสงครามผู้เด่นดังเกินกว่าใครผู้นี้เป็นไอดีข้ามเพศ เยี่ยซิวกับซูมู่ชิวเป็นทีมเดียวกันก็จริง แต่แต่ไหนแต่ไร หากไม่เรียกก็ต่างแยกกันสำรวจแผ่นดินกลอรี่เล่นอย่างอิสระอยู่แล้ว แต่เมื่อเข้ามาเจอคู่หูมือปืนกำลังอยู่ในดันเจียนอยู่แล้วบ่อยๆ เยี่ยซิวก็อดมีอารมณ์กรุ่นเล็กๆแกมหมั่นไส้ไม่ได้ โดยเฉพาะในช่วงใกล้วันนั้นของเดือน
ต่อมาเธอเริ่มสังเกตว่า เวลาออนไลน์ของอี้เชียงชวนหยุนตรงกับเวลาของเธอมากกว่า ปกตินอกจากเวลาลงดันเจียนด้วยกันที่อี้เชียงชวนหยุนก็พูดน้อยอยู่แล้ว เธอแทบไม่เคยคุยตรงๆกับคนคนนี้เลย เทียบกับซูมู่ชิวที่เพื่อนฝูงหลากหลายสนิทกับชาวบ้านได้ง่ายแล้ว เธอพบว่าเธอกระอักกระอ่วนเล็กน้อยที่จะเปิดบทสนทนากับอี้เชียงชวนหยุน เธอเคยแต่ได้ยินซูมู่ชิวเรียกเขาว่าเสี่ยวโจว แต่เขาชื่อเสียงเรียงนามจริงๆว่าอะไรนั้น เธอก็ไม่เคยรู้ คนคนนี้แทบไม่เคยพูดถ้าไม่ถูกทักก่อน และน้อยครั้งมากจริงๆ ที่เขาจะพูดอะไรโดยไม่ถูกทัก
เวลานี้ซูมู่ชิวไม่ออนไลน์ เธอเห็นไฟสีเขียวที่ชื่ออี้เชียงชวนหยุนสว่างอยู่จึงได้ลองทักไป ปฏิสัมพันธ์ที่ผ่านมาอันน้อยนิดระหว่างเธอกับเขาทำให้เยี่ยซิวไม่คาดหวังคำตอบรับ บางทีเขาอาจไม่ตอบเธอ หากซูมู่ชิวไม่อยู่ อี้เชียงชวนหยุนอาจเป็นเพื่อนของซูมู่ชิว แต่เขาเป็นแค่คนรู้จักของเยี่ยซิว
อี้เชียงชวนหยุน: จะไปเดี๋ยวนี้
ข้อความที่ตอบกลับมาทันทีทำให้เธอแปลกใจ คนคนนี้อาจไมได้พูดเยอะ แต่เธอพบว่าการสื่อสารระหว่างเขากับเธอไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่คิด ในฐานะผู้เล่น เขาสนับสนุนเธอได้ถูกจังหวะ และจับจังหวะรับส่งอ่านเกมได้พอดีสม่ำเสมอ ในฐานะคนคนหนึ่ง เธอพบว่าตัวเองสนิทใจกับคนคนนี้ได้รวดเร็ว ไม่นานเธอกับเขาก็สนิทกัน เธอได้รู้ว่าเขาชื่อโจวเจ๋อข่าย อายุน้อยกว่าเธอ 4 ปี เขาเป็นนักเรียนในโรงเรียนประจำชายแห่งหนึ่งในประเทศเดียวกันกับเธอ แม้ชาวแผ่นดินใหญ่จะย้ายถิ่นฐานไปทุกแห่งทุกแห่ง แต่ประเทศนี้ในหลายเมืองไม่มีชาวจีนมากนัก โจวเจ๋อข่ายบอกว่าเขาได้ทุนมาเรียน ถามไปถามมา เธอกลับพบว่าเขาอยู่ในเมืองเดียวกับเธอนี่ แถมโรงเรียนที่เขาเรียนยังเป็นโรงเรียนเกรดไฮโซมีชื่อเสียงที่พวกลูกคนใหญ่คนโตมาเรียนกัน!
ครั้งแรกที่เยี่ยซิวพบโจวเจ๋อข่าย เธอรู้สึกเหมือนเคยพบเขามาก่อน เป็นความรู้สึกอบอุ่นแปลกประหลาดที่แผ่ซ่านหลอมละลายเอาส่วนที่ละมุนละมุน ส่วนที่ดีที่สุดของเธอออกมามอบให้กับเขา มันแตกต่างจากความรู้สึกตกหลุมรักที่มักมีบรรยายถึงบนหน้าหนังสือหรือในซีรีย์จำพวกที่ฉู่หยุนซิ่วเพื่อนของเธอชื่นชอบ แม้โจวเจ๋อข่ายจะพิสูจน์ให้เธอรู้แล้วว่า เขาสามารถทำให้ผู้หญิงที่ไม่เคยสนใจทำตัวให้เป็นผู้หญิงอย่างเธอหน้าแดงก่ำ เลือดลมสูบฉีดด้วยเลือดฝาด และมีผีเสื้อบินไปมาในท้องเหมือนกับคำบรรยายพวกนั้น
ครั้งหนึ่ง ตอนที่เยี่ยชิวกลับมาบ้าน เขาเล่าให้เธอฟังถึงศาสตราจารย์สติเฟื่องที่มหาวิทยาลัยของเขา ศาสตราจารย์วัยจวนเกษียณที่พร่ำเพ้อหลงใหลในทฤษฎีโลกคู่ขนาน…
“พี่เชื่อเรื่องโลกคู่ขนานไหม เขาว่าในขณะที่เราดำเนินชีวิตของเราอยู่ตอนนี้ อาจมีตัวเราคนอื่นอีกเป็นร้อยเป็นพันที่กำลังใช้ชีวิตในแบบอื่น”
เยี่ยซิวนอนบนโซฟา มือเรียวสวยลูบสางขนนุ่มนิ่มของเสี่ยวเตี่ยนที่ปีนขึ้นมาอ้อนนอนบนหน้าท้องของเธอ เธอเหลือบมองน้องชายที่เปลี่ยนมาพับกระดาษเล่นอยู่ที่โต๊ะทำงาน เห็นได้ชัดว่าเขาทำรายงานเสร็จเรียบร้อยแล้ว
“เช่น อาจจะมีโลกใบหนึ่งที่พี่เป็นผู้ชาย นายเป็นผู้หญิง แล้วคนที่ต้องเรียนต่อตามความคาดหวังของพ่อก็เป็นพี่แทนนายใช่ไหม” เธอถามยิ้มๆ
“แบบนั้นก็ไม่เลว” เยี่ยชิวทำท่าครุ่นคิด เขาพับกระดาษในมือทบไปมาเหมือนไม่มีแบบแผน แต่สุดท้ายแล้วกระดาษกลับกลายเป็นนกกระเรียนตัวหนึ่ง “แต่ถ้าพี่เป็นผู้ชาย พี่คงจะนิสัยแย่น่าดู ผมเสียสละแบบนี้ก็ดีแล้ว”
เยี่ยซิวไม่ใส่ใจคำแซะจากฝ่ายน้อง เพียงแต่แหงนหน้ามองเพดาน ลองนึกตาม
“…นั่นสินะ ถ้าพี่เป็นผู้ชาย อาจจะหนีออกจากบ้านไปเล่นเกมตั้งนานแล้ว”
เยี่ยซิวไม่เชื่อเรื่องโลกคู่ขนาน แต่หลายครั้งประสบการณ์ของเธอก็สอดประสานกับทฤษฎีที่ว่าจนรับรู้สัมผัสได้ แต่เธอก็ไม่เคยคิดจะใส่ใจมัน ชีวิตนี้เป็นของเธอ เธอมีสิทธิ์เลือกใช้มันในแบบที่เธอปรารถนา แต่หลายครั้ง ในชีวิตของเธอก็มีแรงดึงดูด มีผู้คนที่เธอรู้สึกคุ้นเคยแต่แรกพบโผล่เข้ามา
หากซูมู่ชิวคือคนที่อยู่เคียงข้างเธอเสมอ
หากหานเหวินชิงคือคู่แข่งที่ไม่ใช่ไม่อาจอยู่ร่วมโลกกันไม่ได้
โจวเจ๋อข่ายก็เป็น…คู่แข่งที่เธอปรารถนาให้เขายืนเคียงข้าง
โจวเจ๋อข่ายเป็นคนเงียบๆ แม้รูปร่างหน้าตาของเขาจะมีเสน่ห์ดึงดูดชวนมอง แต่ความเป็นคนพูดน้อยไม่ค่อยตอบสนองทำใหเขาดูคล้ายเป็นคนน่าเบื่อ แต่สำหรับเยี่ยซิวที่รู้จักอี้เชียงชวนหยุนไม่คิดเช่นนั้น
ในความเงียบมีปากกระบอกปืน เป็นปืนที่พร้อมจะลั่นไกในทุกเวลาที่เหมาะสมที่สุดอยู่เสมอ
และหลายครั้งกระสุนก็พุ่งจากปืนกระบอกนั้นโดยผู้อื่นไม่คาดคิด
ครั้งหนึง เยี่ยซิวกับโจวเจ๋อข่ายไปเดทที่ร้านไอศครีม เขาฉกฉวยเชอร์รี่แดงสดว่องไวทั้งที่เขารู้ว่าเธอชื่นชอบและมักชอบเก็บเชอร์รี่รสหวานไว้กินท้ายสุด เยี่ยซิวไม่ใช่คนชอบเอาชนะ เธอเพียงแต่เกิดมาเพื่อเป็นผู้ชนะ แต่โจวเจ๋อข่ายเองก็ไม่ใช่คนที่เกิดมาเพื่อแพ้ แม้ในต่างถิ่นที่คนเอเชียอย่างพวกเขามักถูกลดความสำคัญ คนคนนี้กลับได้ยืนบนเวทีใต้สปอตไลท์สว่าง แม้ไม่พูดพล่ามโพนทะนา แต่ความสามารถของเขาโดดเด่น ในโรงเรียนชื่อดังที่การแข่งขันข้างในสูงยิ่งกว่าสูง เขาได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกคลับพิเศษ มีบทบาทพิเศษ และสวมใส่เครื่องแบบแตกต่างสะดุดตา เพียงแต่…
รสหวานเย็นๆของไอศครีมมินท์แผ่กระจายไปบนลิ้น ริมฝีปากอุ่นอีกคู่เคลื่อนประกบเข้าหา สอดลิ้นป้อนผลเชอร์รี่เชื่อมให้เธอเคล้ารสจูบที่หวานล้ำ
โจวเจ๋อข่ายเกิดมาเพื่อเป็นที่รักของคนอื่นๆ แต่เขารักและยอมลงให้แต่เพียงเธอ
“For my queen.” ชายหนุ่มกระซิบ เยี่ยซิวพบว่าเธอชอบฟังสำเนียงภาษาอังกฤษของเขา มันเสนาะหูและทุ้มตำ่กว่าเสียงปกติที่เขามักใช้
พวกเขาเป็นชาวต่างชาติส่วนน้อยในต่างแดน อาจเป็นเพราะความเชื่อมโยงในโลกคู่ขนาน อาจเป็นเพราะความจริงข้อนี้ หรืออาจแค่เพราะ…นี่คือเขา และนี่คือเธอ เธอจึงได้รู้สึกถึงความอบอุ่นอ่อนละมุนที่เธอเคยสัมผัสได้เฉกวันแรกที่เธอได้พบเขาทุกครั้งที่ได้พบ ทั้งในวันอากาศอบอุ่นที่เขากับเธอนอนเล่นด้วยกันบนผืนหญ้า มองดูหมู่เมฆล่องลอยบนท้องฟ้า ก่อนเธอจะเห็นท้องฟ้าสีเดียวกันในดวงตาของเขา ก่อนเธอจะได้กลิ่นของเขาชัดเจนกว่ากลิ่นของดอกไม้และทะเลหญ้า ก่อนนิ้วของเขาจะหยิบเอาดอกหญ้าสีขาวและเศษใบไม้ออกจากเส้นไหมยาวสลวยของเธอ
เขายิ้มให้เธอแบบเดียวกับที่เคยยิ้มหลอมละลายความกระด้างร้ายกาจ ในวันที่เขามารับเธอในวันฝนตก เสื้อกั๊กสีสดที่แบ่งแยกเขาจากนักเรียนทั่วไปของโรงเรียนเปียกปอนจากละอองฝน สุภาพบุรุษที่เมืองนี้มักพกร่ม แต่สุภาพบุรุษท่านนี้กลับรีบร้อนรีบออกมาหาเธอจนลืมระวังความไม่แน่นอนของฟ้าฝน เยี่ยซิวมองสภาพของเขาที่เปียกปอนด้วยหยาดละอองน้ำ หยดน้ำใสเกาะอยู่บนเรือนผมและแต้มสีเสื้อสูทและกางเกงเนื้อดีของเขาจนเข้มเป็นด่างจุด หญิงสาวหัวเราะเบาๆ ชายหนุ่มยิ้มอย่างประหม่าเล็กน้อย หากแต่เพียงเขากระพริบตาไล่หยาดฝนจากบนแพขนตา มือแสนสวยก็ประคองดวงหน้าของเขา ก่อนราชินีจะมอบจุมพิตบนริมฝีปากที่เยียบเย็นจากไอฝน
พวกเขาเป็นสีสันของกันและกันในโลกสีทึบเทา
ในงานเลี้ยงอำลาหลังพิธีจบการศึกษาของคลับพิเศษที่โจวเจ๋อข่ายเป็นสมาชิก สมาชิกสามารถพาแขกที่เป็นคนนอกเข้าร่วมได้ 1 คน งานเลี้ยงนี้จัดขึ้นเพื่อพบปะสังสรรค์ ให้รุ่นน้องได้รู้จักรุ่นพี่ที่จบไปแล้ว กระชับผูกมิตรสัมพันธ์ รวมไปถึงเปิดตัวแนะนำแฟนตัวเองให้รู้จักกับเพื่อนๆ หากพิจารณาจากบุคคลที่เข้าร่วมและสถานที่จัด นี่ก็อาจเรียกได้ว่าเป็นงานสังสรรค์ของวงสังคมชั้นสูงขนาดย่อมๆ สมัยที่ครอบครัวของเธอยังร่ำรวย เยี่ยซิวไม่เคยชอบงานพวกนี้ และมักจะแกล้งป่วยเพื่อจะได้ไม่ต้องไปร่วม แต่ความคุ้นชินช่วยให้เธอไม่ประหม่า ชุดเดรสที่แม่ของเธอเคยซื้อให้แต่เธอไม่เคยคิดจะใส่ บัดนี้เธอหยิบมันออกมา…
โรงเรียนประจำชายล้วนไม่มีผู้หญิง แต่งานถ่ายแบบที่เขาทำเป็นรายได้เสริมทำให้โจวเจ๋อข่ายได้พบกับผู้หญิงสวยมากมาย แต่สำหรับเขาแล้ว เธอเหล่านั้นไม่เคยจับตาเขาเหมือนเยี่ยซิว เขาไม่รู้ว่าตัวเองตกหลุมรักพี่สาวที่อายุมากกว่าเขา 4 ปีคนนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ เขารู้แต่เพียงว่า…เวลาที่อยู่กับเยี่ยซิว เขามีความสุขมาก รูปร่างหน้าตากับเสน่ห์ดึงดูดของเขาอาจทำให้คนนึกว่าเขาชื่นชอบอะไรหวือหวา แต่ความจริงแล้ว โจวเจ๋อข่ายก็เป็นเหมือนกับความเงียบและสงบนิ่ง เขาชอบความเรียบง่าย
แค่ค่ำคืนหนึ่งที่เขาได้ร่วมเล่นเกมกับเธอ…
แค่วันที่เขาพบเธอแสร้งทำเป็นผ่านมาเพื่อดูเขาแข่งรักบี้…
แค่ชั่วขณะที่เขานั่งเล่นในชั่วโมงว่างกับเพื่อนฝูงบนกำแพงอิฐ และทอดสายตามาเห็น…
เพียงแค่เธอยิ้มให้เขา เพียงแค่เธอเข้ามาใกล้ เขามีความสุข
พวกเขาเป็นสีสันของกันและกันในโลกสีทึบเทา
โจวเจ๋อข่ายพบว่าเขาไม่อาจหลงรักเยี่ยซิวไปมากกว่าที่รักได้ กระนั้น…ในค่ำคืนนั้นที่เขามารับเธอ เขาเหมือนถูกมนต์สะกดให้ร่วงตกในหลุมพรางที่ยากจะปีนกลับซ้ำๆ ชุดเข้ารูปสีทองที่ซีดจางกว่าอำพันทว่าสะท้อนทุกแสงสีของราตรีบนเรือนร่างแบบบางอ่อนช้อย ตัดรับกับเรือนผมสีปีกกาดำสนิทยาว และเน้นส่งสีสันของดวงตาหญิงสาวให้ติดตรึงทุกครั้งที่เขามองสบ
“Versace?” ชายหนุ่มอดถามไม่ได้ เมื่อพวกเขาปลีกตัวจากความวุ่นวายของงาน ชุดบนเรือนร่างหญิงสาวสะท้อนกับแสงของโคมระย้าดุจดังบรอนซ์ที่ลุกไหม้ หญิงสาวหมุนตัวกลับมาจากทิวทัศน์นอกกระจกหน้าต่าง ความมืดมิดในเมืองอันน่าเบื่อไม่มีสิ่งใดน่ามอง
“ไม่เคยใส่เลย เพิ่งเอามาใส่วันนี้ ชอบไหม” เธอสังเกตสายตาเขาที่บัดนี้สบมองสำรวจเธอ ใต้แสงโคมประดับคริสตัลนับร้อย นัยน์ตาของเขาเป็นสีคล้ายน้ำทะเลมากกว่าสีของท้องฟ้า
“ชุดแหวกหน้าอกไม่เหมาะ” โจวเจ๋อข่ายเอ่ยทั้งไม่เปลี่ยนสีหน้า
“…” สาวที่เคยได้ชื่อว่าหน้าไม่อายใจแป้วไปเล็กน้อย “จะบอกว่าอกเจี่ยเจียแบนงั้นสิ”
“เปล่า” รอยยิ้มเล็กๆปรากฎบนริมฝีปากของโจวเจ๋อข่าย เขาขยับเข้าหาหญิงสาว เอื้อมมือผ่านร่างเธอไปรูดปิดม่านกำมะหยี่สีไวน์ “แค่…”
เขาดันร่างเธอชิดกับกรอบหน้าต่างที่บัดนี้ปิดม่านแล้วสนิท มือแกร่งสัมผัสผิวขาวนวลที่ชุดเดรสจงใจเปิดแหว่งเหว้า ก่อนกระซิบแผ่วเบา
“อยากได้ Versace On The Floor”
…
นับจากวันแรกที่กลอรี่ออนไลน์เปิดเซิร์ฟเวอร์แรกให้เล่นก็ผ่านไป 9 ปีกว่าแล้ว อีกไม่กี่เดือน บริษัทเกมจะเปิดให้บริการเกมกลอรี่ออนไลน์เซิร์ฟเวอร์ที่ 10 แต่ชื่อเสียงของมหาเทพเกมออนไลน์รุ่นบุกเบิกไม่เคยจางหาย…
ชิวมู่ซู: เยี่ยซิว เธอตอบแชทหวงเส้าเทียนที หมอนั่นมาฟลัดใส่ฉันจนไม่เป็นอันทำอะไรแล้ว
มู่อวี่เฉิงเฟิง: พี่คะ ฉันตอบข้อความไม่ทันแล้ว ฉันว่าพี่เปิดช่อง Live สดแถลงไปเลยดีไหม
ชิวมู่ซู: เยี่ยซิว ฉันรู้ว่าเธออยู่ อย่ามาทำเป็นไม่เห็นนะ! เสี่ยวโจวล่ะ อยู่ด้วยกันใช่ไหม!?
เยี่ยอวี่เซิงฝาน: เยี่ยซิว! งานแต่งนี่มันอะไร เธอจะแต่งกับอี้เชียงชวนหยุนทำไมไม่ส่งข่าวมาบอก เรายังเป็นเพื่อนกันอยู่ไหม หา!? เรื่องใหญ่ขนาดนี้ ถ้าเธอไม่ชวนฉันจะตามไปรังควานเธอถึงที่โน่นแน่! อย่าคิดว่าฉันไม่มีเงินซื้อตั๋วเชียว รู้ไหมตอนนี้วงการกลอรี่ในจีนน่ะใหญ่แค่ไหน ฉันเป็นนักกีฬาอาชีพเชียวนะ! กะอีแค่ตั๋วไม่กี่ใบ ฉันซื้อได้อยู่แล้ว บอกมา จัดงานที่ไหน เวลาไหน จัดยังไง กี่โมง บอกมาเดี๋ยวนี้!
หวังปู้หลิวสิง: ขอแสดงความยินดีด้วย ถ้าเป็นไปได้ฉันอยากไปร่วมงานแต่ง ปล. ได้ยินว่าสูตรซาลาเปาที่ขอไปขายดีที่ร้านของพ่อเธอ
เฟิงเฉิงเยียนอวี่: เยี่ยซิว! เธอต้องให้ฉันเป็นเพื่อนเจ้าสาวนะ!
ข้อความจำนวนมากถูกฟลัดเข้ามาในกล่องข้อความของอี๋เยี่ยจือชิวจนเยี่ยซิวแทบหาข้อความหนึ่งเดียวจากมือพิการของอวี้เหวินโจวแทบไม่เจอ จากวันแรกที่เซิร์ฟเวอร์แรกเปิดจวบจนวันนี้ผ่านมาเกือบสิบปีแล้ว ในทีแรก เยี่ยซิวกับโจวเจ๋อข่ายคิดจะจัดงานแต่งแบบเรียบง่าย มีแต่เพียงครอบครัวของเยี่ยซิว ครอบครัวของโจวเจ๋อข่าย เพื่อนที่พวกเขาสนิทด้วยที่โน่นจำนวนหนึ่ง ส่วนที่เมืองจีนก็มีแค่ตั๋วที่พวกเขาส่งให้ซูมู่ชิวกับซูมู่เฉิง
หลังโจวเจ๋อข่ายจบไฮสคูล ประวัติและเกรดของเขา รวมทั้งชื่อเสียงของโรงเรียนการันตีมหาวิทยาลัยที่ดีในประเทศนี้ได้ เขาเรียนต่อมหาวิทยาลัย ในขณะที่กิจการทางบ้านของเยี่ยซิวเริ่มกระเตื้องขึ้น สูตรซาลาเปาที่เยี่ยซิวขอมาจากหวังเจี๋ยซีขายดีเป็นเทน้ำเทท่า สุดท้ายร้านอาหารจีนของทางบ้านก็ขยับขยายกลายเป็นกิจการใหญ่โตลูกค้าเนืองแน่น เยี่ยซิวออกจากร้านเนตมาช่วยกิจการที่บ้าน ส่วนเยี่ยชิวที่งอแงว่าไม่อยากเรียนต่อมาตลอดกลับขอเรียนต่อด้วยตัวเองเพราะเกิดจะติดลมศึกษาต่อทฤษฎีของตาศาสตราจารย์สติเฟื่องเข้าให้ สุดท้ายที่บ้านจึงให้โจวเจ๋อข่ายหมั้นกับเธอไว้รอจนกว่าเขาจะเรียนจบ
โจวเจ๋อข่ายได้งานที่บริษัทมีชื่อเสียงหนึ่ง ชีวิตของพวกเขาตอนนี้มั่นคง และพร้อมจะก้าวต่อไปร่วมใช้ชีวิตคู่
ตลอดเวลาเกือบสิบปี พวกเขาไม่เคยทิ้งกลอรี่ และดูเหมือนว่ากลอรี่จะเป็นสายสัมพันธ์ที่เชื่อมผู้คนกลุ่มหนึ่งเข้าด้วยกัน ทั้งหานเหวินชิงที่โผล่มาถึงงานแต่งคนแรกทั้งที่เขาไม่เคยพูดอะไรในแชท ทั้งซูมู่ชิวซูมู่เฉิงที่สวมกอดพวกเขาด้วยความดีใจและคิดถึง ทั้งฉู่หยุนซิ่วที่ยืนยันว่าจะมาเป็นเพื่อนเจ้าสาวและมาถึงก่อนเพื่อช่วยเยี่ยซิวแต่งตัวเพื่อให้มั่นใจว่าเยี่ยซิวจะเป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุด ทั้งหวังเจี๋ยซีและอวี้เหวินโจวที่มาร่วมงานอวยพร ยังมีจางซินเจี๋ย จางเจียเล่อ และคนอื่นๆ รวมทั้ง…
หวงเส้าเทียนที่ทำให้งานแต่งที่พวกเขาหวังว่าจะเรียบง่ายกลายเป็นงานที่ดังโหวกเหวกที่สุด
ท่ามกลางป้ายประกาศ อี้เชียงชวนหยุน ♥ อี๋เยี่ยจือชิวขนาดใหญ่และสารพัดป้ายไฟอันเป็นไอเดียของอริยดาบ บาทหลวงนำเอ่ยคำปฏิญาณ บ่าวสาวเอ่ยคำสาบานรัก
พวกเขาผูกพันกันด้วยสายสัมพันธ์ที่มีให้กันและกัน พวกเขาพบกันเพราะสายสัมพันธ์ในกลอรี่
เจ้าบ่าวจุมพิตเจ้าสาวลึกล้ำ จูบเธอเฉกดังวันที่เขาจูบเธอครั้งแรก
ก่อนช่อดอกไม้จะถูกโยนลงมา
พวกเขาทั้งหมดผูกพันกันด้วยสายไมตรีในกลอรี่–
ช่อดอกไม้ตกลงในมือของซูมู่เฉิง
–ก่อนซูมู่ชิวจะอาละวาดขู่ฉีกสายสัมพันธ์นั้นหากใครกล้าจีบซูมู่เฉิง และยัดเยียดช่อดอกไม้ให้เยี่ยซิวโยนใหม่
……………………….
…………….
…….
…
จวินม่อเซี่ยว: [3: 31 AM] เสี่ยวโจว เกอฝันประหลาด ฝันว่าเกอเป็นผู้หญิง
จวินม่อเซี่ยว: [3: 33 AM] อาจจะฟังแปลกไปหน่อย แต่เกอฝันว่าเกอแต่งงานกับนาย
จวินม่อเซี่ยว: [3: 35 AM] ในฝันพวกเรามีความสุขมาก แต่เส้าเทียนทำงานแต่งวุ่นวายพอดู
จวินม่อเซี่ยว: [3: 38 AM] …ไม่ต้องตอบเกอก็ได้ เกอแค่กลับไปนอนไม่หลับ ไม่สิ ตอนนี้นายคงนอนแล้วมั้ง
จวินม่อเซี่ยว: [3: 51 AM] ……..เกอก็ยังนอนไม่หลับ
จวินม่อเซี่ยว: [3: 59 AM] เสี่ยวโจว…พวกเราลอง…คบกันดีไหม
เยี่ยซิวนั่งมองหน้าจอของตัวเอง เขาจุดบุหรี่ขึ้นสูบฟอดใหญ่ พ่นควันขาวเอื่อยลอยคลุ้ง เขาคิดอยู่ว่าจะส่งข้อความไปบอกโจวเจ๋อข่ายว่าเขาล้อเล่น แต่จู่ๆแจ้งเตือนก็บอกเขาว่าอีกฝ่ายตอบกลับมา
อี้เชียงชวนหยุน: [4: 03 AM] ฝันเหมือนกัน
อี้เชียงชวนหยุน: [4: 03 AM] จะไปหา
จวินม่อเซี่ยว: [4: 04 AM] …ยังเช้าอยู่เลย นอนอีกสักหน่อยค่อยว่ากันไหม
อี้เชียงชวนหยุน: [4: 07 AM] อยู่ข้างล่างแล้ว
เยี่ยซิวเบิกตากว้างขึ้นเล็กน้อย เขาลุกไปดูที่หน้าต่าง เห็นมอเตอร์ไซค์ของโจวเจ๋อข่ายจอดอยู่ข้างล่างจริงๆ ชายหนุ่มหัวเราะเหอะๆ เขาไม่แน่ใจว่าควรจะคิดกับเรื่องนี้ยังไง แต่ก็เดินลงไปเปิดประตู
ที่หน้าประตู โจวเจ๋อข่ายยืนอยู่ตรงนั้น เขายิ้มน้อยๆให้เยี่ยซิว ก่อนจะช่อดอกไม้กับกล่องของขวัญกล่องหนึ่งมาให้
“สุขสันต์วันเกิด เยี่ยซิว” ชายหนุ่มเอ่ย “คบกัน”
มหาเทพเปิดกล่องของขวัญออกดู ในนั้นมีกระโปรงสีทองดูคุ้นตาชุดหนึ่งกับป้ายบอกยี่ห้อ
Versace
Fin
Happy Birthday, Ye Xiu
29.05.2018
แวววววววววววว มันแย่ตรง Versace on the Floor แม้ชุดของเซนดาย่าจิเซะซี่มาก ถถถถถ
แย่ยิ่งกว่าตอนจบ นั่นพี่เยี่ยชายไม่ใช่เร้ออออ ถถถ
แต่ฟิกละมุนดีครัช มันเห็นลำดับเรื่องราวชีวิตคนสองคนดี ดูเรียบง่าย อบอุ่น ไม่หวือหวา มันมีความ slow burn อะ ชอบบบบบบบ
แอบเห็นนะครัชว่าน้องเรียนอีตันก็บอกมา——
ปล. อย่าขายเปาจื่อ—–
จริงๆตอนแรกจะตั้งชื่อฟิกว่า Versace on the Floor ละ แต่เดี๋ยวสปอย (…)
แหม่ ตอนจบก็พี่ชายไง ใส่ๆไปเหอะ พี่เยี่ย น้องก็บอกดูดีอยู่ดี (แต่จะดีกว่าถ้าใส่แล้วค่อย on the floor ก๊ากกกกกก)
เมื่อเช้าเห็นโพสต์ทอมฮิเรียนอีตันแล้วพล๊อตในหัวก็สว่างวาบ เอาวะ ไม่ต่ำตมวันนี้ก็ได้ 555555+
เปาจื่อขายดีมาก พี่หวังบอกสูตรนี้คิดเองเลยนะ!