[แปล] Gakuen Psycho-Pass

บทแปลต้นฉบับภาษาอังกฤษโดย kumapillow

บทแปลอังกฤษ-ไทยโดย hiyuura

(บทแปลนี้ได้รับอนุญาตจากผู้แปลต้นฉบับภาษาอังกฤษแล้ว)

.

กิโนะสะ: มีโรงเรียนเทคนิคแห่งหนึ่งในกรุงโตเกียวที่เป็นโรงเรียนประจำให้การศึกษาต่อเนื่องตั้งแต่ชั้นมัธยมต้น มัธยมปลาย ไปจนถึงระดับมหาวิทยาลัย ชื่อของผมคือกิโนะสะ โนบุจิกะ และผมเป็นสมาชิกกรรมการรักษาระเบียบของโรงเรียนแห่งนี้

(เสียงโคงามิฝึกซ้อม)

กิโนะสะ: โคงามิ

โคงามิ: ว่าไง กิโนะ

กิโนะสะ: ดูนายเหมือนไม่เคยเบื่อเลยนะ ฝึกซ้อมได้ตลอดเวลา

โคงามิ: นายจะเบื่อเวลากินหรือหายใจไหมล่ะ

กิโนะสะ: ไม่อยู่แล้ว

โคงามิ: สำหรับฉันก็มันเหมือนกันนั่นแหละ กับเรื่องการซ้อม

กิโนะสะ: คนที่จะเอาเรื่องการกินกะการซ้อมไปรวมกันมีแต่นายเท่านั้นแหละ! อย่ามาล้อฉันเล่นนะ!

โคงามิ: เฮ้ๆๆ นายขึ้นไวไปไหม กินแคลเซียมบ้างรึเปล่าน่ะ กิโนะ ดื่มนมบ้างนะ โอเคไหม

กิโนะสะ: ฉันมีเหตุผลที่จะโกรธน่ะ! ชมรมยูโดของเราแทบจะโดนยุบอยู่แล้ว เรื่องมันมาถึงขั้นนี้แล้ว…

โคงามิ: ข่าวร้ายสำหรับป๊ะป๋าเลยนะนั่น

กิโนะสะ: ต้องเรียกว่าอ.มาซาโอกะตะหาก! เลิกเรียกว่าป๊ะป๋าได้แล้ว!

โคงามิ: แต่พวกนายก็เข้ากันได้ดีแบบพ่อลูกไม่ใช่รึไง

กิโนะสะ: เงียบน่า!

โคงามิ: นายนี่เอาแต่โมโหแฮะ…

กิโนะสะ: ชมรมยูโดอยู่ในสภาพย่ำแย่ขนาดนี้ แล้วดูนายสิ ไอ้คนที่มีความสามารถทางกายภาพโดดเด่นที่สุดในโรงเรียน แต่ดันมาเสียเวลาขลุกอยู่กับชมรมเล็กๆนี่!

โคงามิ: เฮ้! อย่าเรียกว่าชมรมเล็กๆสิ ฉันเป็นถึงกัปตันของชมรมปันจักสีลัตเลยนา

กิโนะสะ: กัปตันในชมรมที่ไม่มีสมาชิกสักคนน่ะสิ! แล้วไอ้ปันจักสีลัตนี่มันอะไร หา!?

โคงามิ: เป็นศิลปะป้องกันตัวจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีโรงเรียนสอนหลายที่–

กิโนะสะ: ฉันสนที่ไหนล่ะ!!

โคงามิ: นายถามเองนะ อารมณ์แปรปรวนชะมัด

กิโนะสะ: นี่ไปไม่ถึงไหนกันสักที ฟังนะ! ฉันขอสั่งในฐานะกรรมการรักษาระเบียบ นายจงมาเป็นสมาชิกชมรมยูโดหนึ่งอาทิตย์!

โคงามิ: …ฉันเนี่ยนะ

กิโนะสะ: ใช่แล้ว เราจะมีการซ้อมแข่งกันสุดสัปดาห์ที่จะถึงนี่ ถ้าเราชนะโรงเรียนอาร์มาเกดอนไฮจากเมืองข้างๆได้ รองอ.ใหญ่เซ็นกุจิจะยกเลิกคำสั่งยุบชมรมให้

โคงามิ: ลาสต์อาร์มาเกดอนไฮเรอะ…ท่าจะโหดเอาเรื่องแฮะ แต่ไอ้งานซ้อมแข่งนี่มันเป็นการแข่งแบบกลุ่มใช่ไหม แล้วมีใครอีกนอกจากฉันล่ะ

กิโนะสะ: แน่นอนว่าฉันจะไปในฐานะสมาชิกอย่างเป็นทางการของชมรมยูโด แต่พูดตามตรง สมาชิกคนอื่นๆไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าไหร่ ฉันก็เลยไปชวนเจ้าเด็กปีหนึ่งคางารินั่น

โคงามิ: อย่าเที่ยวชวนลูกน้องชาวบ้านส่งเดชสิฟระ!

กิโนะสะ: นายเรียกหมอนั่นว่าลูกน้อง แต่หมอนั่นก็ไม่ได้เป็นสมาชิกชมรมสีลัตสักหน่อย สึเนะโมริจากกลุ่มกรรมการรักษาระเบียบช่วยถามหมอนั่นให้ แล้วหมอนั่นก็ตกลงทันที

โคงามิ: หมอนั่นแพ้ทางผู้หญิงจริงๆ ให้ตาย…

กิโนะสะ: หมอนั่นมันก็แค่ใจอ่อนเวลาเจอสึเนะโมริ…

โคงามิ: …หา?

กิโนะสะ: …เอาเป็นว่า ตอนนี้มีคางาริแล้วละกัน

โคงามิ: แล้วใครอีก

กิโนะสะ: ฉันลองถามมาคิชิมะ โชโกะด้วย

โคงามิ: (อ้าปากค้าง) มาคิชิมะ…!

มาคิชิมะ: ก็เป็นอย่างที่ได้ยินนั่นแหละ

มาซาโอกะ: โทษทีนะที่ต้องเดือดร้อนทุกคน

โคงามิ: ทำไมถึงเป็นมาคิชิมะ!? ไอ้หมอนี่น่าจะเอาแต่ยุ่งอยู่กับชมรมสมาคมวิจัยอาชญากรรมวิปริตเล็กๆน่าขยะแขยงของมันไม่ใช่เรอะ!

มาคิชิมะ: อาจจะเป็นชมรมเล็กๆ แต่ผมมีสมาชิกในชมรมนะ อย่างมิโดคุง ริคาโกะซัง แล้วก็นักเรียนแลกเปลี่ยนแชกุซอง ไม่เหมือนชมรมปันจักสีลัต ที่นอกจากจะเป็นชมรมเล็กๆแล้วยังไม่มีสมาชิกสักคน

โคงามิ: มาคิชิมะ…! เพราะแก…ซาซายามะ…ซาซายามะถึงได้…โดนพักการเรียนหนึ่งปี!!!

มาคิชิมะ: เรื่องนั้นเป็นความผิดของเขาเองนะ ในความเห็นของผ–

มาซาโอกะ: เลิกทะเลาะกันได้แล้ว! พยายามดีๆกันไว้! ฉันแน่ใจว่าโนบุจิกะอธิบายเรื่องทั้งหมดให้ฟังแล้ว แต่พวกเธอยังต้องร่วมงานกันเพื่อให้ชนะการแข่ง มาทำให้ไอ้รองอ.ใหญ่น่ารังเกียจนั่นเห็นว่าเราทำอะไรได้ เอาให้อึ้งกิมกี่กันไปเลย!

โคงามิ: ป๋า…เดี๋ยวนี้เขาไม่พูดแบบนั้นกันแล้ว…

กิโนะสะ: บอกให้เรียกว่าอ.มาซาโอกะ ไม่ใช่ป๋า! ฉันต้องเตือนนายกี่ครั้งกัน หา!!

มาซาโอกะ: โนบุจิกะ ไม่เป็นไรน่า ใจเย็นๆ

กิโนะสะ: ฮึ่ย! (ถอนใจ)

มาคิชิมะ: มีสุภาษิตจีนหนึ่งเกี่ยวกับเรื่องทำนองนี้ ที่ว่า “ศัตรูคู่อาฆาตบนเรือลำเดียวกัน”

มาซาโอกะ: โนบุจิกะ เรื่องอาวุธพวกนั้นที่คณะกรรมการรักษาระเบียบยึดไปจากมาคิชิมะ…

มาคิชิมะ: เช่น มีดโกนอันใหญ่อันนั้น…

มาซาโอกะ: เขาจะช่วยเราถ้าแกตกลงคืนอาวุธพวกนั้น แล้วยกเลิกข้อหาที่เขาทำผิดกฎรร.ทั้งหมด

โคงามิ: เดี๋ยว คืนอาวุธให้หมอนั่นไม่ได้นะ!

กิโนะสะ: นี่มันจะมีเรื่องบ้าอะไรอีกละเนี่ย…

กิโนะสะ: เพื่อจะรักษาชมรมยูโดเอาไว้ พวกเราทั้งห้ามุ่งหน้าไปยังอาร์มาเกดอนไฮอันโด่งดังในเรื่องความเก่งกาจเหนือมนุษย์ของเหล่านักเรียน ทีมฝ่ายตรงข้ามที่ดูทรงพลังและน่าเกรงขามเรียกร้องการแข่งแบบเหมารวมอ.ที่ปรึกษา ดังนั้นพ่อ เอ๊ย อ.มาซาโอกะเลยเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในทีมของเราด้วย แข่งกันแบบห้าต่อห้า ต้องขออภัยถ้าผมจะขอข้ามรายละเอียด แต่เอาเป็นว่าเราชนะการแข่ง ทีมอีกฝ่ายไม่มีโชค และสุดท้าย โคงามิแค่คนเดียวก็โซโล่คว่ำคู่แข่งทั้งงาน

มาซาโอกะ: ขอบใจสำหรับงานหนักวันนี้นะ ทุกคน! ต้องขอโทษด้วยที่มื้อนี้เป็นแค่เบอร์เกอร์ แต่ฉันเลี้ยงเอง ถึงนี่จะเป็นแค่น้ำผลไม้ แต่ เอ้า cheers!

โคงามิ: ขอบคุณสำหรับงานหนัก! …ว่าแต่คางาริล่ะ

มาซาโอกะ: โดนมอเตอร์ไซค์ชนตอนไปถึงอาร์มาเกดอนไฮใช่ไหมล่ะ เห็นว่าซี่โครงน่าจะหัก ตอนนี้คงกำลังให้อ.คาราโนะโมริตรวจอยู่ที่คลีนิคที่โรงเรียน

โคงามิ: เดี๋ยว ทำไมหมอนั่นไม่ไปโรงพยาบาล

มาซาโอกะ: สั่งอาหารกันเถอะ

มาคิชิมะ: อา ผมขอสลัดละกัน

มาซาโอกะ: เป็นอะไรไป โนบุจิกะ แกเงียบไปนะ

กิโนะสะ: ชมรมของเรา…ปลอดภัยแล้วก็จริง แต่…

มาซาโอกะ: อยากพูดอะไรก็พูด ทำตัวให้สมชายชาตรีหน่อย!

กิโนะสะ: …โคงามิ! ทำไมถึงได้ทำอะไรตัวคนเดียว หา!

โคงามิ: เอ้อ…แต่มันเป็นการแข่ง–

กิโนะสะ: ฉันหมายถึง ทำไมมันถึงกลายเป็นยังงี้ นี่ฉันเป็นไอ้โง่คนเดียวที่ห่วงเรื่องนี้จนแทบบ้ารึไงกัน!

โคงามิ: แต่ไม่เห็นเป็นไรนี่ มันก็จบลงด้วยดี ใช่ไหมล่ะ

มาคิชิมะ: ถ้าเราตกลงกันได้แล้ว จะช่วยคืนของที่ยึดไปจากผมได้ไหม

กิโนะสะ: นายไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย! ยังจะกล้าขออีกเรอะ…!

มาซาโอกะ: เอ้านี่ ฉันคืนมีดโกนท่าทางอันตรายนี่ให้

มาคิชิมะ: ดีใจจัง ขอบคุณนะ

โคงามิ: มาคิชิมะ… ฉันรู้สึกไม่ดีกับเรื่องนี้เลย…

กิโนะสะ: แหงล่ะ ฉันก็ไม่พอใจกับสิ่งที่เกิดนักหรอก

โคงามิ: กิโนะ นายคิดมากไป–

กิโนะสะ: ฉันไม่พอใจ ไม่สิ ไม่ใช่แค่นั้น ฉันหงุดหงิด…!

โคงามิ: …นายจะเก่งได้กว่านี้น่า กิโนะ

กิโนะสะ: อะไรทำให้นายคิดแบบนั้น

โคงามิ: ความรู้สึกเป็นทุกข์ของนาย “ในโลกที่เต็มไปด้วยการแข่งขัน อาวุธที่สำคัญ ที่เหนือกว่าสิ่งใดทั้งหมด คือความทุกข์–“

มาคิชิมะ: –เทรายามะ ชูจิได้กล่าวไว้

โคงามิ: –อะ

มาคิชิมะ: จากหนังสือ “โยนหนังสือพวกนั้นทิ้งไป และไปชุมนุมในถนน” บทที่สอง: คุณก็เป็นยากูซ่าได้เหมือนกัน

โคงามิ: ทำไมนายต้องขัดฉันด้วย หา! อย่ามาทำเป็นโชว์ออฟหน่อยเลย!

มาคิชิมะ: นายเอ่ยถึงเทรายามะ ชูจิต่อหน้าผม ผมนึกว่านายอยากจะล่อผมให้เข้ามาร่วมสนทนาด้วย

โคงามิ: ฉันไม่ได้คิดยังงั้นแม้แต่นิดเดียวเฟร้ย! วันนี้เราแค่อยู่ข้างเดียวกัน แต่รู้เอาไว้ซะ วันนึง ฉันจะแก้แค้นกับสิ่งที่แกทำไว้กับซาซายามะ!

มาซาโอกะ: นายทำยังกับหมอนั่นตายแล้วแน่ะ โค

กิโนะสะ: ก็แค่ซ้ำชั้นเอง อย่าทำให้มันแย่ไปหน่อยเลย… จริงๆโดนแบบนี้ก็เหมาะกับนิสัยกร่างไม่สนใจใครของหมอนั่นดีหรอกนะ…

โคงามิ: ฉันจะทำลายชมรมสมาคมวิจัยอาชญากรรมวิปริตของแกไม่ให้เหลือ!

มาคิชิมะ: ผมคิดว่าอาจจะง่ายกว่านะ ถ้าจะพังชมรมสีลัตที่มีสมาชิกแค่คนเดียวน่ะ…​

พนักงาน: ขอบคุณมากนะครับ!

โคงามิ: มาคิชิมะ! นายกินแต่สลัด แต่กินเข้าไปเยอะมาก ปกติการกินอาหารของนายมันอะไรยังไงกัน!

มาคิชิมะ: ก็ไม่ใช่ว่าผมทานมังสวิรัติหรอกนะ…​

โคงามิ: ยังกับฉันสน!

มาคิชิมะ: โคงามิ ผมดีใจนะที่มีคนแบบนายมาทะเลาะด้วย อย่างน้อย มันก็ทำให้ผมหายเบื่อได้…

กิโนะสะ: (กรน) โคงามิ…อือ…ทำไมนายถึงได้…ได้… (กรน)

โคงามิ: ละเมอบนหลังป๊ะป๋าเรอะ กิโนะ

มาซาโอกะ: เจ้านี่เหนื่อยมาก ปล่อยไว้ยังงี้แหละ

มาคิชิมะ: ละเมอพูดงั้นเหรอ… นายรู้สึกไหมว่าพวกเราอาจจะเป็นแค่ส่วนหนึ่งในจินตนาการของใครบางคน

โคงามิ: หา? นายอยากจะพูดอะไรกันแน่

มาคิชิมะ: เรื่องทั้งหมดนี่เหมือนกับ…เรื่องโกหก เหมือนโปรแกรมเสมือนจริงที่ใครบางคนสร้างขึ้นมา

โคงามิ: นายอ่านนิยายไซไฟมากไปแล้ว

มาคิชิมะ: หึ…ก็อาจจะเป็นแบบนั้น

.

ตอนเจอดราม่านี้ครั้งแรก พยายามไม่ใส่ฟิลเตอร์แล้ว แต่ก็ยังอดคิดไม่ได้ว่ากิโนะละเมอได้ขัดช่วงคนสารภาพรัก(?)มาก กร๊ากกกกกกกก

ตอนสุดท้ายทำเอาหงอยไปเล็กๆ ถ้ากาคุเอ็นเป็นเรื่องจริงคงจะเฮฮาสนุกสนานดีไม่น้อย (ฮา)

สำหรับไฟล์เสียง รอสักแปบนะคะ เดี๋ยวจะมาอีดิตให้โหลดฟัง แนะนำให้ฟังประกอบตอนอ่าน เพราะฮามาก 555+

Edit: ไฟล์เสียงจ้ะ >> Part 1 | Part 2

Leave a comment