Psycho-Fes Live Reading Drama
-สึเนโมริ และ โคงามิกับมาคิชิมะ-
.
บทโดย ฟุคามิ มาโคโตะ (Nitro+)
บทแปลต้นฉบับภาษาอังกฤษโดย kumapillow
บทแปลอังกฤษ-ไทยโดย hiyuura
(บทแปลนี้ได้รับอนุญาตจากผู้แปลต้นฉบับภาษาอังกฤษแล้ว)
หมายเหตุ: บทด้านล่างเป็นความคิดของแต่ละคน แต่การอ่านดราม่าของนักพากย์จัดให้ออกมาดูเหมือนบทสนทนา
.
(ฉากจากตอนที่ 22: ทุ่งไฮเปอร์โอ๊ต
มาคิชิมะกับสึเนโมริบาดเจ็บจากรถบรรทุกคว่ำ มาคิชิมะเดินไปยังสึเนโมริที่ใกล้จะหมดสติและกะจะยิงเธอด้วยปืนลูกโม่แต่ปืนพกไม่มีกระสุน แทนที่จะฆ่าเธอด้วยกำลังที่เหลืออยู่ เขาเพียงแต่เดินจากไปเฉยๆ)
มาคิชิมะ: ผมฆ่าเธอไม่ลงงั้นเหรอ ไม่หรอก ผมแค่คิดว่าผมไม่ควรจะฆ่าเธอ ถ้าผมต้องการ ผมจะฆ่าเธอซะก็ได้ เตะที่หลังหัว กระทืบคอ… เธอก็เคยอยู่ในสถานะเดียวกับผมที่โนนาทาวเวอร์ ตอนนั้นถ้าเธอคิดจะฆ่าผมเธอก็ทำได้
สึเนโมริ: …ตอนนั้นฉันจะฆ่ามาคิชิมะก็ได้ถ้าคิดจะทำ จริงๆตอนนั้นฉันก็คิด…แต่สุดท้ายฉันก็ทำไม่ได้ เพื่อรักษาสิ่งที่สำคัญสำหรับฉันเอาไว้ ฉันถึงได้ไม่ฆ่าเขา
มาคิชิมะ: เหตุผลที่ผมไม่ฆ่าเธอ… เพราะเธอไม่ใช่แค่ผู้เห็นเหตุการณ์ แต่เป็นพยานรู้เห็นรึเปล่านะ ผู้เห็นเหตุการณ์ก็ไม่ต่างจากอากาศธาตุ แต่พยานยังมีหน้าที่สำคัญ นั่นคือการยืนยันเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แบบนั้น หรือไม่ก็…
สึเนโมริ: เราจะจบชีวิตผู้คนก็ต่อเมื่อโดมิเนเตอร์บอกให้เราทำ นั่นคือสิ่งที่การเป็นนักสืบในกรมเป็น… ฟังแล้วออกจะน่าขัน ตอนนี้ฉันถึงได้พอจะเข้าใจสิ่งที่มาคิชิมะพยายามจะบอก เจตจำนงค์ในการฆ่าต้องขึ้นอยู่กับความคิดของเราเอง เจตจำนงค์ในการฆ่าของฉัน บาปของฉัน ความรับผิดชอบของฉัน…
มาคิชิมะ: เจตจำนงค์ในการฆ่าของผม บาปของผม ความหมายของชีวิตผม… เจตจำนงค์ในการฆ่าของผมเป็นของผมแต่เพียงผู้เดียว
สึเนโมริ: ตอนนั้นที่ฉันพลาดที่จะฆ่ามาคิชิมะ นั่นเป็นเพราะความต้องการฆ่าของฉันไม่ได้เป็นของฉันเพียงแค่คนเดียว แต่ฉันยอมรับมัน ฉันคิดว่ามันไม่ใช่ความผิดพลาด ฉันจะเชื่อมั่นในกฎหมายไม่ใช่ในระบบซีบิล ฉันจะเชื่อในเหตุผลของผู้คนและความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของพวกเขา
…
(ฉากจากตอนที่ 22:
โคงามิอุ้มสึเนโมริไปยังที่ปลอดภัย โคงามิใส่กระสุนในปืนพก สึเนโมริพยายามห้ามไม่ให้เขาไล่ตามมาคิชิมะ ทว่าไร้ผล โคงามิทิ้งเธอเอาไว้และตามมาคิชิมะไป)
มาคิชิมะ: ผมสงสัยว่าใครกันที่กล่าวว่า “มนุษย์คืองานที่ยังสร้างไม่เสร็จ” (หัวเราะ) ตอนนี้เรื่องนั้นคงไม่มีความหมายแล้วละนะ…
โคงามิ: ทันทีที่ฉันฆ่ามาคิชิมะได้… ฉันจะได้จบเรื่องคดีนี้เสียที ฉันจะได้หยุดคิดเรื่องของหมอนั่น มาคิชิมะ โชโกะ…
มาคิชิมะ: ผมสนุกมาก โคงามิ ชินยะ การต่อสู้กับนายนั่นยอดเยี่ยมที่สุด สิ่งเดียวที่ผมเสียดายก็คือเรื่องนี้มันใกล้จะจบเต็มที เกมที่ไม่มีวันจบสุดท้ายจะกลายเป็นเรื่องน่าเบื่อ ดังนั้นเกมนี้เองก็ควรจะจบได้แล้ว… พอมาคิดดู ผมอาจจะไม่เคยเข้าใจตัวเองดีนัก การได้สู้กับนาย ทำให้ผมเข้าใจตัวเองมากขึ้น
โคงามิ: …มาคิชิมะ ก่อนฉันจะมาเจอคดีนี้ ฉันไม่เคยเข้าใจว่าฉันเป็นคนแบบไหนกันแน่ นายเป็นคนดึงเอาความละโมบ ความรุนแรงในตัวฉันออกมา… มันเหมือนกับฉันกลายเป็นอีกคนหนึ่ง จากตอนที่ฉันเป็นเจ้าหน้าที่สืบสวนจนกลายมาเป็นผู้บังคับใช้…
มาคิชิมะ: ถ้าเราผสมสีขาวกับสีดำเข้าด้วยกัน เราจะเห็นผลลัพธ์ได้ง่ายดาย สีนั้นกลายเป็นสีเทา แต่การที่เราจะทำให้สีเทากลับเป็นสีดำหรือสีขาวนั้นเป็นเรื่องยาก ต่อให้นายฆ่าผม นายก็จะไม่สามารถกลับไปเป็นตัวนายคนเดิมได้อีก…
โคงามิ: เรื่องนั้นมันสายเกินไปแล้ว อาจจะมีวิธีจบเรื่องพวกนี้ที่ดีกว่านี้ แต่ฉันไม่เสียใจ และฉันก็ไม่ยินดีเช่นกัน ฉันแค่…เหนื่อยเหลือเกิน… แต่ความคิดของฉันมันกระจ่างแจ้ง บอกฉันสิ มาคิชิมะ หลังจากที่ฉันฆ่านายแล้ว ฉัน…
(บนเนินเขาแห่งหนึ่ง
มาคิชิมะกับโคงามิ
และแล้ว โคงามิก็ลั่นไก
ปั-ง)
…
สึเนโมริ: …คดีมาคิชิมะปิดฉากลงในที่สุด มีความหมายอะไรไหมที่ฉันได้อยู่เป็นพยานให้กับคนทั้งสอง …ฉันอยากจะคิดว่ามีนะ เพราะคดีนี้ ทำให้ฉันสามารถเข้าไปใกล้ใจกลางของโลกใบนี้ มหานครที่สว่างไสวและสมบูรณ์แบบที่เต็มไปด้วยโฮโลแกรม ตึกสูงที่ตั้งตระหง่านเป็นทิวแถวราวกับสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ เขตที่อยู่อาศัยที่ถูกตรวจตราด้วยอุปกรณ์สอดส่อง มหานครแห่งนี้ที่ไม่เคยหลับ ไม่เคยหยุดนิ่ง เราจะรอและพร้อมสำหรับทุกคดีที่เข้ามาใหม่ มีคนกล่าวว่าปลาฉลามจะตายหากมันหยุดว่ายน้ำ ก็เหมือนกับมหานครแห่งนี้… แต่ถ้านักสืบยี่สิบกว่าคนรวบรวมสติปัญญา ความตั้งใจ และความกล้าหาญ เราจะมีพลังมากเพียงพอที่จะปกป้องความสงบสุขและวินัยในที่แห่งนี้ได้
-End-
.
ก่อนหน้านี้คิดว่าจะไม่เปิด WordPress แต่สุดท้ายก็ต้องเปิดจนได้ เพื่อความสะดวกหลายๆอย่าง จริงๆบทแปล Live Reading Drama มีสามส่วนด้วยกัน โดยส่วนที่นำมาแปลนี้เป็นส่วนสุดท้ายที่สำคัญกับเนื้อเรื่องของตัวอากาเนะ คุณโคแล้วก็โชโกะที่สุดค่ะ
ในอนาคตอาจจะนำบทแปลอื่นๆมาลงเพิ่ม ตามด้วยเรียบเรียงบทวิเคราะห์บางส่วนที่เราเคยลงบนทัมเบลอของเราเป็นภาษาอังกฤษเอาไว้ ก็…หวังว่าบทแปลนี้จะช่วยไขข้อข้องใจคาใจของหลายๆคนได้ในระดับหนึ่งนะคะ