[แปล] Touken Ranbu – ประวัติดาบ: Doudanuki Masakuni

แปลจาก: http://yue-ciel.tumblr.com/post/116931609141/doutanuki-masakuni

ดาบโดดานุกิเป็นสายดาบสำหรับใช้งานกำเนิดจากกลุ่มช่างตีดาบในจังหวัดฮิโกะ (ปัจจุบันคือคุมาโมโตะ) ในช่วงกลางยุค 1500 สมัยเซ็นโกคุ ระหว่างความคุกรุ่นของสงคราม การผลิตดาบที่ใช้งานได้ดีแต่ก็เป็นสินค้าใช้แล้วทิ้งได้เป็นที่นิยมกว่าการสร้างสรรค์ศิลปะชั้นสูง มาซาคุนิเป็นเล่มที่โด่งดังที่สุดในจำนวนสายดาบดังกล่าว ถูกตีขึ้นโดยโอยามะ โคสึเกะ โนะ ซึเกะ ไดเมียวคาโตะ คิโยมาสะ (加藤 清正) ผู้โด่งดังเป็นผู้อุปถัมภ์เหล่าช่างตีดาบสายโดทานุกิ เขาได้นำดาบและกลุ่มช่างผู้ตีไปทำการผลิตดาบที่สนามรบสำหรับกองทัพในสงครามรุกรานเกาหลี (1592-1598 และยังเป็นหัวข้ออ่อนไหวจนถึงปัจจุบัน) ตามคำสั่งของโทโยโทมิ ฮิเดโยชิ คาโตะประทับใจมากกับประสิทธิผลของดาบโดทานุกิจึงได้ประทานอักษรตัวหนึ่ง (正) จากชื่อของเขาเองให้กับโอยามะ โคสึเกะ โนะ ซึเกะ ซึ่งถือเป็นเกียรติอันยิ่งใหญ่สำหรับสามัญชนในสมัยนั้น ดังนั้นโอยามะ โคสึเกะ โนะ ซึเกะจึงได้เปลี่ยนลายเซ็นของตัวเองจากโนบุโยชิ (信賀) เป็นมาซาคุนิ (正国)

ความดีความชอบใหญ่หลวงของดาบมาซาคุนิเกิดกับเจ้านายของเขา นักดาบผู้เก่งกาจนามซาคาคิบาระ เคนคิจิ (1830-1894) ในสมัยเมจิ ในฐานะผู้ติดตามของบุตรชายโชกุนอิเอโมจิ ซาคาคิบาระใช้ชีวิตผ่านช่วงมรสุมของยุคบาคุมัทสึจนมาถึงยุคเมจิ การสิ้นอำนาจลงของระบอบโชกุนโทคุกาวะบอกถึงจุดสิ้นสุดของชนชั้นซามูไรที่สิ้นทั้งสถานะทางสังคมและความมั่งคั่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อรัฐบาลเมจิไม่วางใจเรื่องความขัดแย้งในหมู่ซามูไร คำสั่งเลิกใช้ดาบ (1876) ห้ามใครก็ตามยกเว้นอดีตไดเมียว ข้าราชการทางการทหารและผู้พิทักษ์กฎหมายพกพาอาวุธในที่สาธารณะ  การดวลดาบเองก็ถูกสั่งห้ามดวยเช่นกัน ช่างตีดาบจำนวนมากเปลี่ยนมาทำข้าวของเครื่องใช้ในครัวเรือนยังชีพ และอดีตซามูไรก็ทิ้งดาบของตัวเอง เมื่อไม่มีผู้อุปถัมภ์ ซาคาคิบาระพบกับความยากลำบากทางการเงินในการคงเอาไว้ซึ่งสำนักดาบ เขาเริ่มจัดการแข่งเคนโดเพื่อหวังจะเรียกความสนใจเกี่ยวกับศาสตร์การใช้ดาบกลับมา

ในปี 1887 ซาคาคิบาระและดาบมาซาคุนิได้รับชื่อเสียงเลื่องลือที่เทนรันจิไอ (การแสดงหรือการแข่งขันศิลปะการต่อสู้และกีฬาต่อหน้าจักรพรรดิเมจิ) เมื่อพวกเขาผ่าหมวกเกราะของชุดเกราะชั้นดีที่ทำโดยสำนักเมียวชินขาด ในขณะที่นักดาบอีกสองคนไม่สามารถทำได้ ว่ากันว่าชื่อเสียงของมาซาคุนิที่ว่าเป็นดาบที่ทนทานทำให้ซาคาคิบาระมีความมั่นใจในการสร้างวีรกรรมดังกล่าว ซึ่งทำให้มาซาคุนิได้สมญาพิเศษว่า เทนรันคาบุโตะวาริ (天覧兜割り) ดาบมาซาคุนิมีความหนาและใหญ่สำหรับดาบทาจิเนื่องจากเกิดในช่วงยุคเซ็นโกคุที่ต้องผ่าเกราะของซามูไร และได้เสื่อมความนิยมลงไปในช่วงที่ซามูไรเอโดะนิยมดาบที่มีน้ำหนักเบาและสวยงามกว่าในการฟันซามูไรที่สวมแต่เพียงเสื้อผ้า ดังนั้นเหตุการณ์นี้จึงเป็นจุดสำคัญที่ทำให้มาซาคุนิเป็นที่รู้จัก

ตั้งแต่เกิดมา มาซาคุนิก็ถูกสร้างมาเป็นอาวุธสงครามและเขาก็มีชื่อเสียงขึ้นมาได้เพียงเพราะความสามารถในการรบและการใช้งาน ดาบสายโดทานุกิทิ้งเรื่องความงามและแสวงหาความแข็งแกร่งและทนทาน ดังนั้นในสายตาของผู้เชี่ยวชาญด้านดาบสมัยใหม่ มาซาคุนิจึงเป็นดาบที่ไม่ถึงระดับมาตราฐานในสายตาของพวกเขา นั่นจึงเป็นเหตุผลที่มาซาคุนิพูดย้ำบ่อยครั้งว่าเขาถูกสร้างมาเพื่อการฆ่า ไม่ใช่เพื่อนั่งอยู่สวยๆในพิพิธภัณฑ์ศิลปะ เพราะการได้รับการยอมรับโดยกำลังในฐานะดาบที่ใช้งานได้คือโลกที่เขารู้จัก ทว่าเขากลับไม่ได้รับความชื่นชมอย่างที่เขาสมควรได้รับ อย่างไรก็ดี มาซาคุนิดูไม่ได้จะมีปัญหากับดาบอื่นๆที่เป็นผลงานศิลป์ เขาเพียงแต่บ่นเรื่องผู้เชี่ยวชาญที่ประเมินเขาอย่างไม่ให้เครดิตเพียงพอกับการที่เขาได้ใช้ชีวิตอย่างติดดินผ่านช่วงเวลาอันสับสนอลหม่าน เพียงเพราะเขามีรูปลักษณ์ที่ดูจืดชืดธรรมดา

Leave a comment